น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อให้ผ้าหอมยาวนาน

     น้ำยาปรับผ้านุ่มของบริษัทฯ เป็นผลิตภัณฑ์ปรับสภาพผ้า ทำให้ผ้านุ่ม ไม่แข็งกระด้าง ไม่ทำให้ผ้าเห็นอับ ใช้หลังขั้นตอนการซักผ้า เหมาะสำหรับร้านซักอบรีด ทำให้ใยผ้ามีอายุการใช้ที่ยาวนานมากขึ้น ผ้าไม่เกาะตัวกัน คืนสภาพธรรมชาติที่ปกติของใยผ้า ทำให้ผ้าสปริงตัวมีหลากหลายกลิ่นให้เลือก ราคาประหยัดเหมาะกับร้านซักอบรีด โรงแรมโรงพยาบาล โรงซัก และและบ้านเรือนทั่วไป
     น้ำยาปรับผ้านุ่มของทางบริษัทฯมีหลากหลายกลิ่น สำหรับลูกค้าได้เลือก สามารถโทรติดต่อ เซลล์ให้เข้าไปเสนอน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ 
     ทางบริษัทมีบริการส่งถึงที่ในร้านซักอบรีด บ้านเรือนทั่วไป ใน กทม.โดยไม่คิดค่าบริการหากซื้อสินค้าของทางบริษัทครบ 500 บาท

วิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม

-สำหรับเครื่องซักผ้า

     ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเทลงในช่องน้ำยาปรับผ้านุ่มของเครื่องซักผ้าโดยใช้ ขนาด 30 มิลลิลิตร ต่อ ผ้า 5 กก. หรือตามความต้องการของลูกค้าโดยมใส่ในน้ำสุดท้ายของการซัก

-สำหรับการซักด้วยมือ

     หากซักมือให้รินน้ำยาปรับผ้านุ่มลงในภาชนะ ผสมน้ำให้ใช้มือตีละลายน้ำยาให้เข้ากัน(ละลายจนหมด) หลังจากนั้นนำผ้าที่ซักเสร็จแล้วเทลงในภาชนะ โดยให้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ท่วมเนื้อผ้าทั้งหมด บิดผ้า แช่น้ำยาปรับผ้านุ่มทิ้งไว้ 15 - 30 นาที แล้วบิดหมาดๆ แล้วตาก ผึ่งในบริเวณที่มีแดดรำไร ไม่ควรโดนแสดงจัดโดยตรง เพราะจะทำให้ผ้าแห้งกรอบ และรีดยากได้

ข้อแนะนำสำหรับการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม สำหรับซักด้วยมือ

     การซักด้วยมือ ทำให้น้ำยาปรับผ้านุ่มมีประสิทธิผ้า ในการทำให้ผ้าคืนตัว มีสัมผัสที่ดี และ ทำให้น้ำหอมในน้ำยาปรับผ้านุ่มติดทนนานได้ดีกว่า สำหรับการซักด้วยมือ หลังจากที่ละลายน้ำยาปรับผ้านุ่ม และเทผ้าแล้วควรที่จะบิดผ้าเบาๆ หลายๆรอบ ก่อนที่จะแช่ผ้า ละหลังจากที่แช่ผ้า เพื่อนำผ้าขึ้นมาตาก ควรที่จะนำผ้ามาบิดหมาดๆไว้ แล้วนำผ้ามาะบัดตากในที่ที่มีแดดดรำไร เพื่อให้มีกลิ่นหอมติดผ้ายาวนาน และทำให้รีดง่ายขึ้นด้วย จากการสะบัดผ้า ทำให้ผ้าไม่เป็นรอยยับ

บรรจุภัณฑ์

น้ำยาปรับผ้านุ่ม มี 2 ขนาด

- ขนาด 3.8 ลิตร
- ขนาด 20  ลิตร คลิกที่นี่

เหตุผลที่คุณควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม

     การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในน้าสุดท้ายจะถนอมเสื้อผ้าให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ช่วยลดเวลาในการรีดผ้าให้เรียบ น้ำยาปรับผ้านุ่มให้ประโยชน์มากกว่าเพียงให้ถนอมเนื้อผ้าให้นุ่ม 

1. ความนุ่มของใยผ้าที่เพิ่มมากขึ้น

     ใยผ้าที่นุ่มขึ้นเนื่องมากจากการนที่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ปรับสภาพของใยผ้าให้เหมาะสม เป็นธรรมชาติของใยผ้า ทำให้ผ้าไม่แข็งกระด้าง เวลาสวมใส่เสื้อผ้า จึงรู้สึกว่าใส่สบาย ไม่กระด้างผิว

2. ความหอมในน้ำยาปรับผ้านุ่ม

     เสื้อผ้าที่มีกลิ่นหอมช่วยให้เราผ่อนคลายได้ในระหว่างการทำงาน ทำให้ผู้ส่วมใส่รู้สึกดี เพราะกลิ่นเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับอารมณ์ ความรู้สึก และความทรงจำของบุคคล

3. ทำให้ผ้ารีดเรียบได้ง่ายขึ้น

     น้ำยาปรับผ้านุ่มช่วยให้รีดเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น เสื้อผ้าของจะไม่ยับ และย่นน้อยลงเมื่อแห้ง ทำให้เนื้อผ้าเป็นรอยยับได้ยากขึ้น และเป็นรอยพับที่ไม่เป็นมุม เส้นที่คม ช่วยให้การรีดด้วยเตารีดง่ายขึ้น รอยพับหายไปเร็ว และง่ายขึ้น เมื่อเสริมกับน้ำยาอัดกลีบ จะทำให้ผ้ายับยากในระหว่างที่สวมใส่

4. ปรับผ้านุ่มลดความเสียหายบนเนื้อผ้า

     น้ำยาปรับผ้านุ่มช่วยในการถนอมเสื้อผ้า และช่วยยืดอายุในการสวมใส่ได้ โดยน้ำยาปรับผ้านุ่มจะทำการจัดเรียงใยผ้าแต่ละเส้น ให้เป็นธรรมชาติ ไม่พันกัน โดยคืนลักษณะที่ควรจะเป็นของใยผ้า (ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างใยผ้าน้อยลง) ลดการพันของใยผ้า

5. ควบคุมกลิ่นเหม็น

     คุณสมบัติของปรับผ้านุ่ม มีคุณสมบัติในการช่วยฆ่าเชื้อแบททีเรีย ทำให้ผ้าไม่เป็นที่เจริญเติบโตของแบททีเรีย ดังนั้นจึงทำให้เสื้อผ้าไม่มีกลิ่นเหม็นอับ

6. รักษารูปทรงของเสื้อผ้า

     เราเลือกเสื้อผ้ามาสวมเพื่อให้ดูและรู้สึกดี ดังนั้นจึงควรซักอย่างระมัดระวัง การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม จะช่วยให้เสื้อผ้าคงรูปทรงได้ระหว่างการซักและสวมใส่ คอมฟอร์ททำหน้าที่ปกป้องเส้นใยผ้าและเส้นไหม ไม่ให้คลายตัวและหดตัว ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อผ้าของคุณจะคงสภาพได้นานขึ้นภายหลังการซักโดย ไม่เสียหายในเครื่องซักผ้า

7. การระบายอากาศ

     เนื่องจากการเรียงใยผ้าอย่างถูกต้องและเหมาะสม จำทำให้ ใยผ้ามีช่องสำหรับระบายอากาศที่ดี ไม่ทำให้ผ้าเหม็นอับในระหว่างวัน ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นได้ ช่วยให้เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี ให้เหงื่อซึมผ่านจากผิวสูาใยผาระบายออกสู่อากาศได้ง่ายขึ้น

8. ป้องกันไฟฟ้าสถิตย์

     น้ำยาปรับผ้านุ่ม มีหน้าที่ในการลดและป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ในระหว่างการอบผ้า เวลาสวมใส่ ผ้าจึงไม่ดูดติดกัน และไม่ดูดติดผิวอีกด้วย การเยดสีของเนื้อผ้าและผิวก็น้อยลง ช่วยให้สวมใส่สบาย

9. แห้งเร็วขึ้น

     เพราะสารในน้ำยาปรับผ้านุ่มมีคุณสมบัติช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว

10. ถนอมสีเสื้อผ้า

     เพราะผ้าที่เสียดสีมาก ทำให้สีนั้นซีดเร็ว การใช้นย้ำยาปรับผ้านุ่ม ลดการเสียดสีระหว่างเส้นใยในเนื้อผ้า ทำให้ถนอมสีผ้า

ขนาดบรรจุ 20  ลิตร คลิกที่นี่

วิธีใช้
ใช้ผสมน้ำในน้ำสุดท้ายโดยใช้ ขนาด 30 มิลลิลิตร ต่อ ผ้า 5 กก.
โดยผสมในน้ำสุดท้ายของการซัก
หากซักมือให้รินน้ำยาปรับผ้านุ่ม ผสมน้ำให้เข้ากัน(ละลายจนหมด)
แล้วจึงแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มทิ้งไว้ 15 - 30 นาที แล้วบิดหมาดๆ แล้วตาก ผึ่งในบริเวณที่มีแดดรำไร
เมื่อแห้งสินท จึงเก็บผ้า